เบรกเกอร์ (Breaker) หรือ Circuit Breaker เป็นอุปกรณ์อัตโนมัติที่ทำหน้าที่ ปิด-เปิด วงจรไฟฟ้า ที่ว่าอัตโนมัติเพราะว่าตัวเบรกเกอร์เองจะมีกลไกที่ทำหน้าที่ตัดไฟได้เองเมื่อเกิดการโอเวอร์โหลด (Over load) หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit)
เราจะนำเบรกเกอร์มาใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการกระแสสูงๆ เช่น แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องติดเบรกเกอร์ให้ทำหน้าที่ตัดวงจรหรือเรียกสั้นว่าทริป เมื่อเกิดการโอเวอร์โหลดหรือไฟช็อตเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
"สำหรับการเลือกขนาดของเบรกเกอร์ที่ใช้กับแอร์นั้น ให้พิจารณาจากขนาดทำความเย็นของแอร์ ว่ามีขนาดกี่ BTU ซึ่งต้องพิจารณาร่วมกับการเลือกขนาดสายไฟที่จ่ายไฟให้แอร์ ต้องมีขนาดที่เหมาะสมด้วย
ร้านแอร์ศรีสะเกษ ช่างแอร์ศรีสะเกษ
สาระน่ารู้เรื่องเครื่องปรับอากาศ(แอร์) ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไขเบื้องต้นทำได้ด้วยตนเองก่อนจะเรียกช่างแอร์
Monday, February 22, 2016
ขนาดสายไฟในในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (แอร์บ้าน)
การต่อสายไฟให้กับเครื่องปรับอากาศเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ช่างต้องให้ความสำคัญ การติดตั้งสายไฟต้องได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น แอร์ตัดเร็วเกินไป และการลัดวงจร(ไฟช็อต)ของสายไฟเนื่องมาจากขนาดของสายไปที่เล็กเกินไปไม่เหมาะสมกับขนาดของเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
Sunday, January 25, 2015
วิธีใช้และบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ
วิธีการบำรุงรักษาและใช้เครื่องปรับอากาศอย่างถูกวิธี
- ควรเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศให้มีขนาดทำความเย็น(Btu) ที่เหมาะสมกับห้อง
- ควรตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม 25 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 26-27 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน
- ถ้าห้องมีอุณหภูมิสูงควรเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายความร้อนในห้องให้ลดลงก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ
- ไม่ควรนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้เกิดความร้อนมาไว้ในห้องที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาอบ
- ไม่ควรตากผ้าเปียกหรือปลูกต้นไม้ไว้ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เพราะจำทำให้เกิดความชื้นภายในห้องซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก
Friday, January 23, 2015
เลือกซื้อแอร์อย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการ
การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศสักเครื่องบางทีก็สร้างความปวดหัวให้มากเหมือนกัน งั้นมาดูว่าหาต้องการเลือกซื้อแอร์มาใช้งานควรพิจารณาสิ่งใดบ้าง
ใกล้หน้าร้อนทีไรคำถามที่ช่างแอร์มักจะถูกถามเป็นประจำก็คือ จะเลือกซื้อแอร์บ้านแบบไหน ขนาดเท่าไรดี บางครั้งคำถามเหล่านี้ก็ตอบยากเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นมาหาคำตอบเบื้องต้นว่าจะเลือกซื้อแอร์อย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการกันดีกว่า สิ่งที่ต้องพิจารณาก็จะมี ขนาดของห้อง ชนิดของน้ำยาทำความเย็น R22 หรือ R410a, R32 และจะเลือกแอร์แบบธรรมดาหรือแอร์ที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์กันดีอย่างแรกที่ควรจะรู้คือแอร์มีกี่ประเภทที่ยังนิยมใช้งานกันอยู่ หลักๆ ก็คงจะมี 5 ประเภทคือ
![]() | |
เครื่องปรับอากาศชนิดต่างๆ |
2. แบบตั้งหรือแขวนใต้ฝ้า (Floor and Celling Type 12,000-60,000 BTU)
3. แบบเปลือยฝังในฝ้า (Duct Type 12,000-60,000 BTU)
4. แบบตู้ตั้งพื้น (Floor Standing 25,000-60,000 BTU)
5. แบบสี่ทิศทาง (Cassette Type 12,000-60,000 BTU)
Wednesday, January 21, 2015
มาตรฐานวิชาชีพช่างเครื่องปรับอากาศ
กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้กำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก
นับว่าเป็นสิ่งดีสำหรับผู้ใช้บริการและช่างเครื่องปรับอากาศ(ช่างแอร์) ที่ทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ออกมาตรฐานฝีมือแรงงานด้านช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ทำให้ช่างแอร์สามารถพัฒนาฝีมือตนเองให้มีมาตรฐานในการบริการ ลูกค้าเองก็จะได้รับการบริการที่ดีขึ้น การกำหนดมาตรฐานแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้ระดับ 1 หมายถึง ผู้ที่มีฝีมือและความรู้พื้นฐานในการปฏิบัติงานที่ต้องมีหัวหน้างานช่วยให้คำแนะนำหรือช่วยตัดสินใจในเรื่องสำคัญเมื่อจำเป็น
ระดับ 2 หมายถึง ผู้ที่มีฝีมือระดับกลางมีความรู้ความสามารถ ทักษะและประสบการณ์ในการทำงานการตัดสินใจหรือความรู้สัมพันธ์ยังจำกัดอยู่ในงานที่ตนทำ
ระดับ 3 หมายถึง ผู้ที่มีฝีมือระดับสูง สามารถวิเคราะห์ วินิจฉัยปัญหา รู้ขั้นตอนกระบวนการของงานเป็นอย่างดี สามารถช่วยแนะนำงานฝีมือในระดับต่ำกว่าได้เน้นการใช้หนังสือคู่มือ นำความรู้และทักษะมาประยุกต์ ใช้วัสดุเครื่องมือและหลักการให้สัมพันธ์กับอาชีพโดยเฉพาะการตัดสินใจและเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสม
การขอเข้าทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็กสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานประจำจังหวัด ทั้งนี้การสอบจะเปิดให้สอบเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น และมีการทดสอบเพียงระดับ 1-2 ส่วนการสอบระดับ 3 ต้องติดตามว่าจะมีให้เปิดสอบเมื่อใด ช่างแอร์ศรีสะเกษ ผ่านมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับ 1
แอร์มีกลิ่นอับและเหม็นเปรี้ยว ทำอย่างไรดี
แอร์มีกลิ่นเหม็นตอนเปิดใหม่ๆ หรือมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวตลอดเวลาที่เปิดใช้งาน
เมื่อต้องเจอกับอาการอย่างนี้การกำจัดกลิ่นเหม็นด้วยตัวเองตามวิธีที่เคยเสนอไปคงไม่ได้ผลอย่างแน่นอน คงถึงเวลาต้องเรียกช่างแอร์มาทำการล้างแอร์ให้สะอาดเสียที แต่ในกรณีนี้การล้างธรรมดาก็คงไม่ทำให้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวนี้หมดไปได้ ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวกันก่อนว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เมื่อแอร์หรือเครื่องปรับอากาศทำงานในสถานที่ที่มีความชื้นมากๆ จะสังเกตุเห็นว่าแอร์จะเย็นฉ่ำและมีน้ำหยดผ่านทางแผ่นรองน้ำที่อยู่ใต้ตัวเครื่องผ่านออกไปยังท่อระบายน้ำที่อยู่หลังเครื่องเพื่อนำไปทิ้งนอกห้อง เมื่อนานไปแอร์จะสะสมความชื้นไว้มากทำให้เกิดเชื้อราและเป็นที่มาของกลิ่นเหม็นนี่เอง![]() | ||
การตัดแอร์มาล้าง หรือการล้างใหญ่ |
ภาพจาก
Tuesday, January 20, 2015
แอร์มีกลิ่นอับ ต้องกำจัดเพื่ออากาศสดชื่น
เพิ่มความสดชื่น กำจัดกลิ่นอับของแอร์ เพื่อสุขภาพที่ดี
แน่นอนว่าคงไม่มีใครชอบเปิดแอร์ที่มีกลิ่นอับแน่ๆ เพราะส่งผลต่อสุขภาพจิตพาลที่จะทำให้หงุดหงิดหมดอารมณ์ที่จะทำงานหรือแย่ไปกว่านั้นก็คือการส่งผลต่อสุขภาพ กลิ่นอับชื้นที่เกิดขึ้นมาจากความชื้นสะสมมักจะเกิดเพราะที่บ้านเคยน้ำท่วม หรือเกิดในหน้าฝน ซึ่งถ้ามีสาเหตุมาจากสิ่งนี้ก็มีวิธีแก้ไขได้เรามากำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นี้กันดีกว่า ด้วยวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง โดยการไล่ความชื้นออกไปจากเครื่องปรับอากาศดีกว่า
![]() |
แอร์มีกลิ่นอับชื้น |
Subscribe to:
Posts (Atom)